นามอาเพศ (
นามอาเพศถือว่าเป็นโรคที่รักษาให้หายตามปกติไม่ได้เพราะความทุกข์แวมไพร์เกิดจากการที่พวกเขาติดโรคา (
แต่ถึงอย่างนั้นวิธีรักษาถูกค้นพบเพียงแค่คนเดียวนั่นคือวานิทัสผู้ครอบครองตำราวานิทัส ที่รู้จักกันในตำนานว่าเป็นต้นกำเนิดของผู้ต้องสาป ทว่าเขาใช้มันเพื่อรักษาผู้คน พร้อมโนเอ้ สหายของเขาเดินทางร่วมกัน
ประวัติ[]
หลังปรากฎการ์ณบาเบลที่เกิดขึ้นจากพาราเซสซัสเปลี่ยนสูตรสมการโลก จนได้สร้างสิ่งมีชีวิตสายพันธ์ใหม่ที่เรียกว่า "แวมไพร์"
ในคืนหนึ่งที่แวมไพร์จันทราน้ำเงินถือกำเนิดขึ้น และถูกเนรเทศ จึงสาบานว่าจะแก้แค้นโดยสร้างตำราแทรกแซงนามที่แท้จริง เหมือนกับการเขียนสมการโลก
พยาธิวิทยา[]
อาการ[]
ในโลกของวานิทัส การสันนิษฐานว่าเป็นผู้ต้องสาปขั้นแรกนั้นต้องสังเกตว่าพวกเขามีอาการกระหายเลือดไม่รู้จักพอรึไม่? เพราะแวมไพร์ไม่ต้องการเลือดเพื่อเอาชีวิตรอด ทำให้สับสนกับอาการเสพติดโลหิต (แวมไพร์ผู้ชื่นชอบแต่รสเลือด) หากไม่รักษาโรคอาจลุกลาม
ถ้าไม่ฆ่าและรักษาแวมไพร์ที่เป็นผู้ต้องสาป พวกเขาเข้าสู่ระยะสุดท้าย ร่างกายเปลี่ยนแปลงและเสียหายอย่างมาก มีอาการกระหายเลือดเพิ่มขึ้น ส่งเอฟเฟกซ์พิเศษเช่นพละกำลังกับความเร็วมหาศาล ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
การแพร่เชื้อ[]
ไม่ทราบถึงวิธีและการแพร่เชื้อ แต่ตามคำบอกเล่าของวานิทัส ผู้ต้องสาปโดยส่วนใหญ่พบกับ "ขบวนพาเหรดของชาลาร์ตัน" ก่อนติดเชื้อ ไม่สามารถแพร่เชื้อผ่านการกัด สัมผัส เลือดหรือน้ำลาย ติดเชื้อผ่านอากาศ ฯลฯ เกิดขึ้นในชีวิตจริงมาเทียบ ดังนั้น การใกล้ชิดกับผู้ต้องสาปถือว่าอันตรายมาก เพราะพฤติกรรมคนที่ติดเชื้อมีอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ไม่มีติดเชื้อผ่านการสัมผัสหรือมีวิธีป้องกันผู้ต้องสาป
ดูเหมือนว่าเนเนียมีความสามารถพิเศษที่ทำให้คนอื่นติดเชื้อ โดยปกติขอนามที่แท้จริงของเหล่าแวมไพร์ แพร่เชื้อด้วยการประจบริมฝีปาก ผู้ต้องสาปต้านเชื้อไม่ไหว เพื่อเป็นหลักประกันในการทำสัญญากับเนเนีย บางครั้งแวมไพร์ยอมเป็นผู้ต้องสาปด้วยความสมัครใจ แต่ถึงอย่างนั้นข้อตกลงของเนเนียไม่ทราบแน่ชัดว่าเธอทำไปเพราะจุดประสงค์อะไร?
ถึงความสามารถของตำราวาริทัสถูกระบุว่าสามารถแพร่เชื้อผู้ต้องสาป แต่ความสามารถไม่โผล่ให้เห็นจนถึงตอนนี้
การรักษา[]
เมื่อติดเชื้อแล้ว ต้องได้รับการรักษา ไม่อย่างนั้นคนที่ติดเชื้อจะตาย แล้วไม่สามารถใช้ยารักษาปกติได้ แม้ว่ายาระงับอาการได้ชั่วคราว แต่การรักษาจริงๆ ต้องรับคำวินิจฉัยโดยผู้ถือครองตำราวานิทัสเท่านั้น ด้วยการใช้สูตรสมการโลกเพื่อคำนวณย้อนกลับ เพื่อกำจัดโรคา ซึ่งเปรียบเสมือนผ่าตัดเนื้อร้ายออกไป และคืนนามที่แท้จริงให้แก่เหล่าแวมไพร์
การพยากรณ์โรค[]
หากปล่อยทิ้งโดยไม่ได้รับการรักษา แวมไพร์ที่ติดเชื้อจะตายลง ทว่าถ้ารักษาก่อนที่ร่างกายสลายเป็นธุลี อาจมีโอกาสรอดชีวิต 100% ซึ่งไม่รู้ว่าแวมไพร์นั้นมีโอกาสติดเชื้อครั้งที่สองได้หรือไม่?
เมื่อเชื้อลุกลาม คอยทำร้ายเหล่าแวมไพร์และการรักษายากขึ้น จนถึงจุดทำให้แวมไพร์ที่คุณรักเสียชีวิต ซึ่ง % ของคนไข้มีอัตตรารอดชีวิตที่น้อยมากในระยะขั้นสุดท้าย แทบรักษาไม่ได้ นอกจากต้องประหารชีวิต หากรู้ว่าพวกเขาติดเชื้อ บางครั้งแวมไพร์ติดเชื้อระยะสุดท้ายอาจกลายเป็นผู้คุกคาม จนศาสนจักรทางฝ่ายมนุษย์ต้องขอความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ
นามอาเพศผู้ต้องสาปที่รู้จักกันในปัจจุบัน[]
แอคแลนทีน –กรงหนามกุหลาบป่า– (
แอคแลนทีนเป็นนามผู้ต้องสาปสามารถพบเห็นได้ทั่วไปซึ่งปรากฎในเนื้อเรื่องของคุณอเมเลีย โดยลักษณะอาการมีความกระหายเลือดโดยไร้ที่สิ้นสุดและเริ่มสูญสิ้นตนเอง ตอนแรกผู้ต้องสาปอาจทนอาการได้ระยะนึง อย่างน้อยสองสามสัปดาห์ ก่อนควบคุมตัวเองไม่ได้ เมื่อตกอยู่ในสภาวัเลวร้าย เหยื่อเริ่มรู้สึกหนาวจนทนไม่ไหว และร่างกายหยุดเคลื่อนไหวเพราะรู้สึกเจ็บปวด วิธีทำให้อบอุ่นได้คือต้องดื่มเลือดของอีกคน จากนั้นน้ำตาแล้วของเหลวสีดำไหลออกมาจากอกกับดวงตาของพวกเขา เถาวัลย์เต็มไปด้วยแหนมแหลมคมคล้ายกับแส้โผล่จากของเหลวสีดำ ซึ่งดักจับแล้วคอยทำร้ายผู้เคราะห์ร้ายที่เข้ามาใกล้
ลูก้ารู –หมาป่าล่าโลหิต– (
ลูก้ารูเป็นนามผู้ต้องสาปสามารถพบเห็นได้ทั่วไปซึ่งปรากฎในเนื้อเรื่องของโทมัส เบอร์นู โดยลักษณะอาการมีความกระหายเลือดโดยไร้ที่สิ้นสุดและเริ่มสูญสิ้นตนเอง ทว่าแตกต่างจากแอคแลนทีนที่สะสมความรุนแรงของอาการจนไม่สามารถป้องกันได้ ลูก้ารูแสดงให้เห็นในลักษณ์เป็นวัฎจักร โดยอาการหายไปและเกาะติด อยู่รูปแบบของมนุษย์หมาป่าในตำนานที่เปลี่ยนมนุษย์ธรรมดาเป็นสัตว์ร้ายในคืนพระจันทร์เต็มดวงทุกครั้งที่ส่องแสง โดยกลายร่างเป็นหมาป่าและสูบเลือดหญิงสาวจนตาย กระบวนการรุนแรงยังคงดำเนินต่อ ตราบใดที่เชื้อผู้ต้องสาปไม่ยุบตัว พวกเขาก็อาละวาด
ดิสโชแนนช์ –วงดุริยางค์สัตว์ร้าย– (
ดิสโชแนนซ์เป็นนามอาเพศพิเศษที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งทำให้ต่างจากนามอาเพศของผู้ต้องสาปที่พบเจอได้ทั่วไป แม้ว่าลักษณะอาการกระหายเลือดไร้สิ้นสุดแล้วควบคุมตนเองไม่ได้ แต่ที่ทำให้ดิสโชแนนซ์ต่างออกไปคือหากมีแวมไพร์มารวมกันอยู่ในจำนวนมาก ตรงสถานที่เดียวกัน เกิดอาการติดเชื้อแล้วกลายเป็นผู้ต้องสาป แต่ละคนหอนออกมาดั่งสัตว์ร้าย ซึ่งเสียงร้องของพวกเขาทำให้แวมไพร์บ้าคลั่ง โดยใช้ไม่กี่ชั่วโมง อาการติดเชื้อจะลุกลามแล้วกัดกินร่างกายพวกเขาและไม่มีโอกาสรักษาให้หายขาด
เพรดาดัวร์ –นักเล่นเงา–
เพรดาดัวร์เป็นนามอาเพศพบเจอได้ทั่วไป โดยเป็นแวมไพร์สูญเสียตัวตนทีละน้อยแล้วมีอาการกระหายเลือด เจ้าเพรดาดัวร์มีลักษณะเป็นเงาของแวมไพร์ก่อเกิดเป็นรูปร่าง หากโดนสาปจะไม่สามารถขยับเงาของตนเองแล้วขยายใหญ่ขึ้นจนกัดกินเจ้าของร่าง หากไม่ดึงเงาออกจากเจ้าของร่าง พยามมีนิสัยกัดกินทุกสิ่งทุกอย่าง มันไม่หยุดตะกละจนกว่ากินพลังชีวิตของแวมไพร์เปล่งออกมาจนพึงพอใจ จากนั้นเพรดาดัวร์จางหายไปเอง
สัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง (ジェーヴォーダンの
สัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็องเป็นนามอาเพศต่างจากนามผู้ต้องสาปที่พบเจอได้ทั่วไป มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและต่างจากนามอาเพศที่ตั้งไว้ตามปกติซึ่งมีอาการกระหายเลือดและสูญเสียตัวตน หรือหลุดจากการควบคุม ทว่าสัตว์ร้ายกลับตรงกันข้ามเพราะเขายอมมอบนามที่แท้จริงและอยู่ใต้อาณัติเนเนียด้วยความเต็มใจ ทำให้ผู้ต้องสาปสามารถเปลี่ยนร่างระหว่างแวมไพร์ปกติและสัตว์ร้ายที่มีขนาดมหึมาได้ ปัจจุบันที้แสดงให้เห็นนามอาเพศนี้มีแค่ตัวละครเดียวเท่านั้น
เนเนีย –ผู้โอบอุ้มความตาย– (
เนเนียเป็นนามอาเพศโดดเด่น มีเอกลักษณ์ ไม่มีใครเทียบได้มากสุดเท่าที่พบเจอมา มีลักษณะอาการกระหายพลังชีวิตของผู้อื่นและสูญเสียตัวตนทีละน้อย แต่การถือกำเนิดที่ไม่เป็นตามธรรมชาติมาจากพลังที่ไม่ธรรมดาของฟาอัสติน่า ราชินีแวมไพร์ ดังนั้นเนเนียเป็นสิ่งมีชีวิตที่สร้างผู้ต้องสาปขึ้นมา ด้วยใช้วิธีประกบปากอีกฝ่ายแล้วป้อนของเหลวเข้าไปในปาก เกิดอาการติดเชื้อ ทำให้ป่วยรุนแรงเข้าสภาวะอันตราย เนเนียดูเหมือนเจตจำนง บุคลิกที่เสรี แม้ว่าตัวตนในเนื้อเรื่องไม่แสดงอะไรมากนอกจากความกระหายที่ไร้เหตุผลและพยามขอนามที่แท้จริงกับเหล่าแวมไพร์ที่เธอพบพาน
มิลลี่ –โรงละครน้ำแข็ง– (
มิลลี่เป็นนามอาเพศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ต่างจากนามอื่น พลังของมันสามารถแพร่กระจายไปในวงกว้างและสถานการ์ณถูกสร้างขึ้นจากความทรงจำของผู้ต้องสาป ฉายภาพซ้ำในลักษณะวนลูปโดยไร้สิ้นสุด เปรียบเสมือนท่องไปในโลกแห่งการเล่นละครที่ไม่จบ หากผู้ต้องสาปไม่ปฎิเสธเอง จะโดนขังอยู่ในโรงละครที่ปิดตาย แล้วดับสูญพร้อมเจ้าของ ไม่สามารถรักษาปกติด้วยวิธีคำนวณย้อนกลับได้ โดยยืมพลังตรามาร์กิ้งของแวมไพร์จันทราน้ำเงินเพื่อย้อนกลับ ปัจจุบันที่เห็นนามอาเพศลักษณะนี้มีแค่โคลเอ้เท่านั้น
เรื่องไม่สำคัญ[]
- ชื่อและความสุนทรีย์ของนามอาเพศมีธีมมาจากนวนิยายหลายซีรีย์ รวมถึงผลงานของชาร์ลส แปร์โรลท์[1] พี่น้องกริมม์[2] ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน[3]
- แอคแลนทีน –กรงหนามกุหลาบป่า– ดูเหมือนได้รับบันดาลใจจากเจ้าหญิงนิทรา ซึ่งมีชื่อในภาษาเยอรมันว่า "Dornröschen" หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า "Little Briar Rose"[4]
- ลูก้ารู –หมาป่าล่าโลหิต– ได้รับแรงบันดาลใจจากหมาป่าในเรื่องหนูน้อยหมวกแดง[5]
- ดิสโชแนนช์ –วงดุริยางค์สัตว์ร้าย– ได้รับแรงบันดาลใจจากนักดนตรีสี่สหาย (the Town Musicians of Bremen) เป็นนิทานเยอรมันแต่งโดยพี่น้องกริมม์[6]
- เพรดาดัวร์ –นักเล่นเงา– แรงบันดาลใจมาจาก "The Shadow" เป็นนิทานของเดนมาร์กซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวเงาผู้ตระหนักรู้และใช้ชีวิตตามลำพัง รับรู้ด้านมืดของมนุษย์ เงากลับมาหาชายคนนั้นและกลัวว่าถูกพบตัว จึงได้ฆ่าชายคนนั้นทิ้ง[7]
- เนเนีย –ผู้โอบอุ้มความตาย– รับแรงบันใจมาจากเฟาสต์ (Faust)[8]
- สัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็องได้รับแรงบันดาลใจจากสัตว์ร้ายในชีวิตจริง[9]
- มิลลี่ –โรงละครน้ำแข็ง– ได้รับแรงบันดาลใจจากราชินีหิมะ (The Snow Queen)[10]
- จนถึงตอนนี้มีแค่หลุยส์ เดอ ซาดกับมินะเท่านั้นที่ไม่สามารถระบุนามอาเพศได้
- ในภาษาญี่ปุ่นคำว่า เมลาดิส
改竄式 (Byōma) สามารถแปลได้ว่า "ปีศาจที่นำพาโรคภัย" หรือเรียกสั้นๆ ว่าโรคา เปรียบเทียบได้เท่ากับความเจ็บป่วยราวกับสัตว์ประหลาดหรือปีศาจ
อ้างอิง[]
การนำทางสารบัญ[]
v - e - t | รายชื่อตอนบันทึกแวมไพร์วานิทัส |
---|---|
อาร์คท่องเที่ยวปารีส | 1 • 2 • 3 • 4 • 5 |
อาร์ค "Bal Masqué" | 6 • 7 • 8 • 9 • 10 • 11 |
อาร์คชาสเชอร์ที่อยู่ในความมืด | 12 • 13 • 14 • 15 • 16 • 17 • 18 • 19 • 20 • 21 |
อาร์คสัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง | 22 • 23 • 24 • 25 • 26 • 27 • 28 • 29 • 30 • 31 • 32 • 33 • 34 • 34.5 • 35 • 36 • 37 • 38 • 38.5 • 39 • 40 • 41 • 42 • 43 |
อาร์คสวนสนุก | 44 • 45 • 46 • 47 • 48 • 49 • 50 • 51 • 52 • 53 • 54 • 54.5 • 55 • 55.5 • 56 |
อาร์ตปัจจุบัน | 57 • 58 • 59 • 60 • |
ช่วงพัก | 15.5 • 46.5 • 51.5 • 60.5 • 61 • 61.5 • 62 •62.5 • 63 |
เล่มมังงะ | 1 • 2 • 3 • 4 • 5 • 6 • 7 • 8 • 9 • 10 |
อื่นๆ | Vanitashu no Karute • ข้อความผู้เขียน • แปลบทสัมภาษณ์ |