ผมจะฆ่าแวมไพร์ไม่ให้เหลือสักตัวเดียว
หน้าหลัก
|
แอสโทลโฟ กรานาทุม (アストルフォ・グラトゥム, Asutorufo Guranatumu) หรือรู้จักกันในฉายา "แอสโทลโฟผู้ถือครองการ์เนต" (
แอสโทลโฟเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลกรานาทุมที่เข้าร่วมกลุ่มชาสเชอร์มานานตั้งแต่สมัยสงคราม เขาได้รับการเลี้ยงดูและสืบทอดมรดกตระกูลจากทางครอบครัว ทว่าแอสโทลโฟเป็นเด็กที่เกลียดความขัดแย้ง และใจดี เนื่องจากมาจากคำสอนของแม่คอยชื่นชมเด็กชายว่าใจดี ด้วยเหตุนี้แอสโทลโฟจึงคอยช่วยเหลือคนอื่นและเป็นเพื่อนกับแวมไพร์ที่ได้รับบาดเจ็บที่พบเจอ แม้ว่ามิตรภาพจะเป็นการแอบเจอกันอย่างลับๆ ระหว่างเด็กบ้านกราทุมกับเด็กชายแวมไพร์ ทำให้เขามีความฝันว่าอนาคตจะสร้างสันติภาพแวมไพร์กับมนุษย์ในสักวัน ทว่ากลับจบลงด้วยโศกนาฏกรรม เหล่าแวมไพร์แล้วเหล่าพวกพ้องบุกเข้าไปในบ้านของแอสโทลโฟ จัดการทรมาณครอบครัวกรานาทุมเป็นเวลาหลายวัน หลังถูกกัดจนทำให้ตราสัญลักษณ์มาร์กิ้งปรากฎขึ้นยี่สิบกว่าครั้งโดยไม่เต็มใจ พ่อแม่รวมทั้งน้องสาวของเขาก็ถูกสังหาร จนแอสโทลโฟได้รับการช่วยเหลือจากโลร็องต์ นำไปสู่การนับถือชายคนนั้นในฐานะไอดอล ที่เกือบจะนับถือซึ่งภายหลังได้กลายมาเป็นอาจาย์ฝึกสอนให้กับเขา[1]
หลังได้รับการช่วยเหลือจากชาสเชอร์ แอสโทลโฟมีภาพจิตใจที่ไม่มั่นคงและอยากฆ่าตัวตาย ต่อมาชาร์ส พาราดินชาสเชอร์คนแรกแล้วเป็นผู้บัญชาการก็ส่งเสริมความเกลียดซังแวมไพร์ทให้แอสโทลโฟที่มีความแค้นส่วนตัว พยามผลักให้รับตำแหน่งพาราดินชาสเซอร์[2] ความตั้งใจที่ล้างแค้นให้กับแวมไพร์ในฐานะผู้รอดชีวิตจากโศกนาฏกรรม แล้วก้าวข้ามจากเหตุการ์ณเลวร้ายในอดีตทำให้เขาเป็นสัญลักษณ์ที่เหล่าประชาชนโปรดปราน เมื่อโลร็องต์ได้เลี้ยงดูจากแอสโทลโฟให้ได้รับตำแหน่งพาลาดินชาสเชอร์ ความเกลียดชังในอดีตก็โหมกระหน่ำมากขึ้น ผิดกับโลร็องต์พยายามทางรอดให้กับเด็กชายที่เขารับเข้ามา ทว่ามันกลับทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างภารกิจบุกโจมตีที่ตั้งของขบวนการค้ามนุษย์ที่ดำเนินกิจการโดยแวมไพร์ แอสโทลโฟนั้นได้รับมอบหมายให้ช่วยเหลือผู้รอดชีวิต กลับพบว่าพวกเขาเห็นใจพวกแวมไพร์ที่พวกเขาเรียกว่าผู้ช่วยชีวิตและเพื่อนๆ ของพวกเขา ด้วยเหตุนี้แอสโทลโฟจึงมองเห็นพวกเขาเป็นศัตรูกับชาสเชอร์ แอสโทลโฟได้ทำการสังหารผู้รอดชีวิตทุกคนที่นั่นเพราะถือว่าเป็น "คนนอกรีต" ที่เห็นอกเห็นใจแวมไพร์[2]
โลร็องต์โกรธเคืองกับการกระทำแล้วประณามแอสโทลโฟสำหรับความรุนแรงที่มากเกินไปต่อเหยื่อที่ยังคงได้รับการอภัย ต่อพระเจ้า จากนั้นแอสโทลโฟก็เลิกราและสารภาพความเกลียดชังที่มีต่อแวมไพร์ และความรุนแรงที่ตามมาก็เป็นเพียงความเกลียดชังต่อตัวเขาเองเท่านั้น ยังเผยให้เห็นว่าเขายังคงต้องการโทษใครบางคนที่พรากครอบครัวด้วยความตายที่ถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้าย จากนั้นโลร็องต์ตกอยู่ในสภาพสิ้นหวังและตระหนักว่าแอสโทลโฟอยู่เหนือความรอด โลร็องต์จึงลาออกจากการเป็นครูฝึกของแอสโทลโฟเพื่อให้เด็กชายเชื่อว่ากำลังทิ้งเขาไป โดยตั้งใจที่จะเปลี่ยนเส้นทางความเกลียดชังของแอสโทลโฟไปสู่ตัวเขาเอง ในเวลาต่อมาแอสโทลโฟได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นพาราดินชาสเชอร์ แล้วความเกลียดชังต่อแวมไพร์มีความรุนแรงมากขึ้นจากเดิม พยามทรยศด้วยการดูหมิ่นโลร็องต์ พร้อมกับอุทิศตนเพื่อฆ่าแวมไพร์ทุกตน[2]
ลักษณะรูปร่าง[]
แอสโทลโฟเป็นชายตัวเล็ก ผอมเพรียว ผิวขาวและลักษณคล้ายกับเด็กผู้หญิง ใบหน้าของเขากลม คางกับจมูกเล็ก มีคิ้วโค้งบาง ดวงตาสีชมพูโต ขนตายาวและผมสีชมพูเข้มทรง "Blunt haircut" มีลักษณะผมหน้าม้ายาวตรงแต่ไม่ได้ปิดการมองเห็นของดวงตา ผมเขานั้นแสกกลางซึ่งเป็นทรงผมสำหรับเด็กผู้ชาย ผมด้านข้างยาวจนเลยคางเพื่อปกปิดหู
สวมชุดชาสเชอร์แล้วมีลักษณะคล้ายกับชุดทหารตามมาตรฐานปกติ ใส่กางเกงขายาวสีดำและเสื้อเกราะ คาดสายรัดและเข็มขัดที่คล้ายริบบิ้น รองเท้าบูทผูกเชือกสีขาว และใส่เครื่องประดับอย่างลูกประคำ กับต่างหูที่มีลักษณะคล้ายกับเขี้ยวแวมไพร์ สวมถุงมือที่ไร้ปลอกนิ้ว
นิสัย[]
แอลโทลโฟถูกระบุว่าเป็นชาสเชอร์คนแรกที่ถูกมองว่าไร้มนุษยธรรม เขาได้บอกว่าการปกป้องมนุษย์ไม่ใช่หน้าที่แต่เป็นการล่าแวมไพร์ แทบไม่มีความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนมนุษย์ มีความสุขในการทำร้ายผู้อื่นอย่างมาก พยายามอย่างเต็มที่เพื่อสร้างความทุกข์ทรมานโดยไม่จำเป็นให้กับเหยื่อของเขา อารมณ์มีความแปรเปลี่ยนและจะรู้สึกโกรธเมื่อถูกมองว่าเป็นเด็กผู้หญิง โดยเฉพาะตอนที่เขาถูกลวนลามอย่างไม่เต็มใจแล้วถูกนำไปเปรียบเทียบกับโลร็องต์
แอสโทลโฟมีความรุนแรง เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางและซาดิสซ์ มีความปราถนาสูงสุดเพื่อฆ่าแวมไพร์ ไม่พอใจที่ได้ยินความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับเขา แม้ว่าโนเอ้พยามทำความเข้าใจและเจรจากับแอสโทลโฟในตอนแรก ทว่าแวมไพร์ผมขาวตระหนักว่าเด็กหนุ่มไม่สนใจความรู้สึกหรือความเป็นมนุษย์รอบข้าง ยังเชื่อว่าตัวเองเป็น "ความยุติธรรม" และมองว่าตัวเองสมควรได้รับการพิพากษาต่อเหล่าแวมไพร์ โดยขนานนามอาวุธของเขาว่า "ลูยแซ็ต เสาหลักแห่งความยุติธรรม" หรือถูกเรียกว่า "กิโยติน" ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ใช้ในการประหารชีวิตพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 เมื่อแอสโทลโฟตั้งใจที่จะกำจัดเป้าหมาย เขาจะไล่ตามพวกเขาจนถึงขั้นทำลายตัวเอง โดยใช้ยาของชาสเชอร์เกินขนาดโดยไม่ไตร่ตรองเพื่อพยายามฆ่าโนเอ้
ก่อนที่ครอบครัวของเขาเสียชีวิตนั้น แอสโทลโฟเป็นเด็กที่ขี้อายและใจดี มีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่น ช่วยเหลือแวมไพร์ที่บาดเจ็บ แม้ว่าภายหลังเขาจะได้รับการอบรมจากศาสนจักร ก็ยังโทษตัวเองที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวเสียชีวิต พยามแสดงความเกลียดซังโลร็องต์อย่างเปิดเผย แต่ดูเหมือนว่าเขาต้องการพึ่งพาเพื่อปลอบโยนตัวเขาเอง ขณะเดียวกันโนเอ้พยามตั้งคำถามว่าความหลงใหลในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของแอสโทลโฟนั้นเป็นความตั้งใจของเขา หรือศาสนจักรได้ปลูกฝังแนวคิดผิดๆ ในตัวเขาเอง แต่ถึงอย่างนั้นแอสโทลโฟมีเสี้ยวเล็กน้อยของบุคลิกที่อ่อนโยนที่เหลืออยู่ แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลจากเพื่อนของเขาก็ตาม นอกจากนี้เขาแสดงออกถึงความอ่อนโยนและความรักต่อเด็กเป็นพิเศษ
พลังและความสามารถ[]
สไตล์การต่อสู้[]
- ลูยแซ็ต –เสาแห่งความยุติธรรม– (“正義の柱 "ルイゼット", Seigi no Hashira "Ruizetto") : เป็นอาวุธหลักของแอสโทลโฟมีลักษณะเป็นหอกยาวขนาดเท่าลำตัวของแอสโทลโฟ โดยตัวหอกจะมีกลไก สามารถหมุมและเปลี่ยนรูปร่างทรงโค้ง แม้ด้ามหอกจะเป็นสีดำแต่ตัวหอกนั้นมีสีขาวซีดมาก ปลายแหลมเองก็เป็นสีขาวเหมือนกัน มีความสามารถพิเศษเหมือนอาวุธพาราดินชาสเชอร์คนอื่นที่ขับเคลื่อนโดยแร่แอสเทอร์ไมต์
- ตรงปลายอาวุธของแอสโทลโฟสามารถยืด–หดได้ ด้วยเหตุนี้อาวุธเขาจึงสามารถเปลี่ยนความยาว เพื่อทำให้ศัตรูของเขาเกิดความสับสน แล้วบังคับให้พวกเขาปรับให้เข้ากับความยาวของอาวุธที่คาดเดาไม่ได้
- หลังจากชาร์จไปไม่กี่วินาที ลูยแซ็ตก็สามารถ "ระเบิด" ได้ โดยที่หัวของมันเปิดออกและทำให้เกิดการระเบิด
- ยาของชาสเชอร์ : แอสโทลโฟสามารถใช้ยาที่ผลิตโดยศาสนจักร เพื่อเพิ่มพลัง ทว่าหากใช้มากเกินขนาดอาจทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
- เชี่ยวชาญในการต่อสู้ : แม้ว่าโนเอ้จะบอกว่าเขาอ่อนแอกว่า โลร็องต์ ฟอร์ติส ทว่าแอสโทลโฟก็แสดงความแข็งแกร่งในการต่อสู้ไว้มาก แม้ความแข็งแกร่งทางกายภาพจะยังขาดอยู่ และไม่สามารถโจมตีรุนแรงต่อบุคคลหนึ่ง เขาจึงพยามทดแทนด้วยไหวพริบชาญฉลาดและเพิ่มความว่องไวแทน สไตล์การต่อสู้ของเขาคืออาศัยความเร็วแล้วความชำนาญ พยามจัดการกับคู่ต่อสู้ด้วยการโจมตีต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้พวกเขาเปิดช่องรับการโจมตีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
คำคม[]
- เร็วๆ นี้
การปรากฏตัวในตอนต่างๆ[]
- Mémoire 18: Dos à Dos — วิถีแห่งการช่วยเหลือ (แค่ถูกกล่าวถึงเท่านั้น)
- Mémoire 23: Au Pas Camarade — รอยเท้า (ปรากฏตัวครั้งแรก)
- Mémoire 24: Forêt d'argent ไม่คาดฝัน
- Mémoire 25: Endroit Approprié — ร่วมสู้
- Mémoire 26: Dissonance — เสียงหัวเราะแสบแก้วหู*
- Mémoire 27: Cage de Neige — กรง*
- Mémoire 28:Dal Segno — คำถาม
- Mémoire 30:Strascinando — รัวโน๊ต
- Mémoire 33:Cauchemar — กระหึ่มก้อง
- Mémoire 34.5:ฌองณาค — แวมไพร์แห่งซัสเตส (ตอนจบ)
- Mémoire 35: ลูยแซ็ต – เสาแห่งความยุติธรรม
- Mémoire 37: Vengeance — มือที่สัมผัสฝันร้าย
- Mémoire 38: เนเนีย — ผู้โอบอุ้มความตาย (ตอนแรก)
- Mémoire 38.5: เนเนีย — ผู้โอบอุ้มความตาย (ตอนจบ)
- Mémoire 39: Poupée Fissurée — เนื้อแท้ของแม่มด
- Mémoire 40: Avec Toi — สองคนผู้โดดเดี่ยว
- Mémoire 41: Canorus — บุปผาหิมะ
- Mémoire 42: Encore une Fois — ความรัก
- Mémoire 42: Encore une Fois — ความรัก
- Mémoire 43: Encens Restant — กลิ่นหอมจากความฝัน*
- Mémoire 45: Mal d’Amour — โรคที่ไม่มีทางรักษาหาย (ตอนจบ)*
- บันทึกแวมปายวานิตั๊ด!!!! —ภาคเสริม— (ไม่ใช่แคนน่อน)
- Mémoire 58: Observation — ระหว่างความมืดมิด
- Mémoire 12: Deux Ombres -จุดเริ่มต้น- (ปรากฏตัวครั้งแรก)
- Mémoire 13: Forêt d'argent -ไม่คาดฝัน-
- Mémoire 14: Château de Sorcière -แม่มดกับเด็กหนุ่ม-
- Mémoire 16: Chasse aux Vampires -สัตว์ร้าย-
- Mémoire 17: Vengeance -มือที่สัมผัสฝันร้าย-
- Mémoire 18: Avec Toi -เราสองคนผู้โดดเดี่ยว-
- Mémoire 19: Canorus -บุปผาหิมะ-
- Mémoire 20: Mal d'amour -โรคที่ไม่มีทางรักษาหาย- (แค่ถูกกล่าวถึงเท่านั้น)
(*) - หมายถึงตัวละครที่ไม่ได้ปรากฏตัว แต่เป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำของตัวละครอื่นหรือแค่ถูกกล่าวถึงเท่านั้น
เรื่องที่ไม่สำคัญ[]
- แอสโทลโฟได้รับแรงบันดาลใจมาจากอัศวินชาร์เลอมาญในเรื่อง "The Song of Roland"[3] ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเรื่องของวรรณกรรมที่มีชื่อว่าวัฏจักร "Carolingian" หรือมีอีกชื่อว่า "The Matter of France"[4] เป็นตำนานวรรณกรรมที่กำหนดประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส ที่เล่าเรื่องราวของศึกการต่อสู้ของตัวละครรองที่ชื่อว่า "แอสโทลโฟ"[5] ในบทกวีมหากาพย์
- แอสโทลโฟของซีรีย์วานิทัสมีต้นแบบที่ใกล้เคียงกับพาราดินซาสเซอร์ต้นฉบับ
- นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่ชื่อต้นฉบับของแอสโทลโฟมาจากเรื่อง "เพลงขับวีรกรรม (Chanson de geste)" ซึ่งเป็นเรื่องเล่าของฝรั่งเศสด้วย ใช้ชื่อว่า "เอสเตท (Estout)" แล้วแอสโทลโฟในต้นฉบับยังมีชื่ออื่นในภาษาอิตาลีโดยใช้ชื่อว่า "Orlando จากเรื่องโลร็องต์" นอกจากนี้มัตเตโอ มาเรีย โบยาร์โด[6] ทำการแต่งเรื่อง ("Orlando innamorato") และ และ Ludovico Ariosto ("Orlando furioso") เล่าถึงแอสโทลโฟผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของโลร็องต์และเป็นหนึ่งในตัวละครหลัก
- ในบทกวีของ "Orlando furioso" เขาได้เดินทางไปยังดวงจันทร์เพื่อรวบรวมสติปัญญาของโลร็องต์ซึ่งซ่อนอยู่ในขวด เพื่อช่วยโลร็องต์ที่กลายเป็นบ้าเพราะความรัก ให้กลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง
- "กรานาทุม" คือคำภาษาละตินและยังเป็นศัพท์ในทางวิทยาสตร์ของ "ทับทิม"[7]
อ้างอิง[]
การนำทางสารบัญ[]
v - e - t | รายชื่อตอนบันทึกแวมไพร์วานิทัส |
---|---|
อาร์คท่องเที่ยวปารีส | 1 • 2 • 3 • 4 • 5 |
อาร์ค "Bal Masqué" | 6 • 7 • 8 • 9 • 10 • 11 |
อาร์คชาสเชอร์ที่อยู่ในความมืด | 12 • 13 • 14 • 15 • 16 • 17 • 18 • 19 • 20 • 21 |
อาร์คสัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง | 22 • 23 • 24 • 25 • 26 • 27 • 28 • 29 • 30 • 31 • 32 • 33 • 34 • 34.5 • 35 • 36 • 37 • 38 • 38.5 • 39 • 40 • 41 • 42 • 43 |
อาร์คสวนสนุก | 44 • 45 • 46 • 47 • 48 • 49 • 50 • 51 • 52 • 53 • 54 • 54.5 • 55 • 55.5 • 56 |
อาร์ตปัจจุบัน | 57 • 58 • 59 • 60 • |
ช่วงพัก | 15.5 • 46.5 • 51.5 • 60.5 • 61 • 61.5 • 62 •62.5 • 63 |
เล่มมังงะ | 1 • 2 • 3 • 4 • 5 • 6 • 7 • 8 • 9 • 10 |
อื่นๆ | Vanitashu no Karute • ข้อความผู้เขียน • แปลบทสัมภาษณ์ |